[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.6
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
เมนูหลัก
เว็บไซต์แผนกวิชา
อาชีวศึกษา จังหวัดเพชรบูรณ์

ภาพกิจกรรม
สถิติผู้เยี่ยมชม


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่นของเทคนิคเพชรบูรณ์ >>
ย้อนวันวานซีซั่นที่ อาร์เซน่อล ได้ทั้งโล่การกุศลและแชมป์ลีกสูงสุด  VIEW : 88    
โดย E

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 104
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 8
Exp : 23%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2566 เวลา 03:53:30    ปักหมุดและแบ่งปัน



ศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งที่ 101 ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษจบลงด้วยการที่ อาร์เซน่อล ได้แชมป์ไปครอง หลังจากพวกเขาเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในช่วงเวลาปกติ ก่อนที่จะไปชนะในช่วงดวลจุดโทษด้วยสกอร์ 4-1
นี่นับเป็นการได้แชมป์รายการนี้ครั้งที่ 17 ของ อาร์เซน่อล ส่งผลให้พวกเขาเป็นทีมที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 แบบเดี่ยวๆ หลังก่อนหน้านี้ครองอันดับร่วมกับ ลิเวอร์พูล และตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 1 ในชาร์ตนี้อยู่ 4 ครั้ง ซึ่งในจำนวนการได้แชมป์ 17 หนนั้น มีอยู่ 3 ครั้งที่ทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" ได้แชมป์ลีกสูงสุดภายในฤดูกาลเดียวกันด้วย และวันนี้เราจะนั่งไทม์แมชชีนย้อนไปดูกันว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนบ้าง
- ฤดูกาล 1930-31
ต้องเกริ่นก่อนว่าสมัยก่อนศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ หรือที่เรียกกันว่า แชริตี้ ชิลด์ จะเตะกันในช่วงเดือนตุลาคม ไม่ก็เดือนพฤศจิกายน หรือก็คือระหว่างฤดูกาลการแข่งขัน ซึ่งตอนปี 1930 อาร์เซน่อล ลงเล่นเกมชิงโล่การกุศลในฐานะแชมป์เก่าของ เอฟเอ คัพ และพวกเขาก็ชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ แชมป์ลีกสูงสุดจากซีซั่น 1929-30 ไปด้วยสกอร์ 2-1
พอกลับมาเตะกันต่อในลีก ทีมของกุนซือ เฮอร์เบิร์ต แชปแมน ก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดจนชนะไป 28 เกมจากการลงเล่น 42 นัด แถมยังยิงได้ถึง 127 ประตูด้วย ทำให้พวกเขาได้แชมป์ ดิวิชั่น 1  (ลีกสูงสุดของอังกฤษในสมัยนั้น) ไปครองด้วยการเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไปได้ 3 คะแนน และนั่นก็นับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย
- ฤดูกาล 1933-34
หลังจากได้แชมป์ลีกสูงสุดในซีซั่น 1932-33 อาร์เซน่อล ก็ได้สิทธิ์เล่นเกม แชริตี้ ชิลด์ เป็นครั้งที่ 3 โดยหนนี้พวกเขาต้องดวลกับ เอฟเวอร์ตัน ที่มาในฐานะแชมป์เก่าของ เอฟเอ คัพ แต่ว่าทีมดังของกรุงลอนดอนก็เล่นได้เหนือกว่าเยอะจนชนะไป 3-0 แม้จะต้องเล่นที่ กูดิสัน พาร์ค บ้านของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ก็ตาม
สำหรับในลีกสูงสุดนั้น ถึงแม้ในช่วงเดือนมกราคมของปี 1934 พวกเขาจะต้องเจอกับข่าวร้ายกับการที่ แชปแมน เสียชีวิตจากอาการปอดบวมจนทำให้ต้องเอา โจ ชอว์ มาคุมทีมแบบขัดตาทัพ แต่ว่า อาร์เซน่อล ก็ยังทำผลงานได้ดีพอที่จะได้แชมป์ไปครองหลังจากเอาชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ไป 3 คะแนน
- ฤดูกาล 1934-35
แน่นอนว่าเมื่อเป็นแชมป์ลีก อาร์เซน่อล ก็ได้โควตาทำศึก แชริตี้ ชิลด์ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และคู่แข่งของพวกเขาในปี 1934 ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น แมนฯ ซิตี้ แบบเดียวกับในปีนี้ ซึ่งตอนนั้น อาร์เซน่อล ภายใต้การทำทีมของกุนซือ จอร์จ อัลลิสัน เอาชนะไปแบบขาดลอยถึง 4-0
ส่วนในลีก อัลลิสัน ยังสามารถรักษามาตรฐานที่ตกทอดมาจากยุคของ แชปแมน ได้ดีในระดับหนึ่งจนทำให้ อาร์เซน่อล จบฤดูกาลนั้นด้วยการได้แชมป์ในสภาพที่มีแต้มมากกว่า ซันเดอร์แลนด์ 4 แต้ม แถมยังยิงได้ถึง 115 ประตู โดยในจำนวนนั้นมาจากการชนะ 8-0 ถึง 2 นัด ซึ่งคู่แข่งที่โชคร้ายก็คือ เลสเตอร์ ซิตี้ กับ มิดเดิ้ลสโบรห์


สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa