[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.6
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
เมนูหลัก
เว็บไซต์แผนกวิชา
อาชีวศึกษา จังหวัดเพชรบูรณ์

ภาพกิจกรรม
สถิติผู้เยี่ยมชม


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่นของเทคนิคเพชรบูรณ์ >>
5 ประเด็นเด็ดหลัง ลิเวอร์พูล พ่าย อาร์เซน่อล  VIEW : 64    
โดย W

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 115
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 8
Exp : 65%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 12 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 เวลา 01:49:44    ปักหมุดและแบ่งปัน



หงส์แดง จำต้องเจอกับความปราชัยในเกมลีกแมตช์แรกในรอบ 15 เกม ข้างหลังพวกเขาบุกไปโดน อาร์เซน่อล ไล่อัดสกอร์ 1-3 ที่สนามเอมิเรต์ สเตเดี้ยม ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้าที่ผ่านมา
"ปืนใหญ่" ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิ่งไปกว่านั้นในดินแดนกึ่งกลางที่จัดแจงครอบครองเกมได้ตลอด และก็เป็นหลักที่สำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะ "ลิเวอร์พูล" ได้เสร็จ ซึ่งสามผสานของพวกเขาดังเช่นว่า เดแคลุกลน ไรซ์, มาร์ติน โอเดการ์ด รวมทั้ง จอร์จินโญ่ แงะฟอร์มเทวดากระทั่งแผงกองกลางเล่นไม่ออก
ช่วงเวลาเดียวกันแมตช์นี้ข้อผิดพลาดนิดๆหน่อยๆสามารถเปลี่ยนทิศทางของเกมไปอย่างยิ่งจริงๆ โดยอีกทั้ง อาร์เซน่อล แล้วก็ หงส์แดง เปลี่ยนกันแจกของขวัญให้กับคู่ปรับ แม้กระนั้นในรายของ "เดอะ เร้ดส์" มันมีผลเสียหายรุนแรงกระทั่งทำให้กลุ่มกลับแอนฟิลด์มือเปล่า !!
ข้างหลังจบแมตช์นี้การลุ้นแชมป์ลีกเปิดกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในทันที ทั้งยัง อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และก็แม้กระทั้ง แอสตัน วิลล่า สามารถไล่บี้หายใจรดก้านคอ รวมทั้งถ้าเกิดกลุ่มใดสะดุดกลุ่มอื่นสามารถพุ่งแซงได้โดยทันที
1. ดินแดนกึ่งกลางอาร์เซน่อลสุดเลิศล้ำ
ไม่เกล อาร์เตต้า สามารถปรับหมากสำหรับในการสู้กับ หงส์แดง ได้อย่างดีเยี่ยม ข้างหลังบกพร่องในเกมเอฟเอ คัพ แต่ว่าสำหรับเกมลีกพวกเขาชี้ให้เห็นว่าดินแดนกึ่งกลางของ "ปืนใหญ่" เป็นพื้นที่สำคัญที่ทำให้กลุ่มดับซ่า "ลิเวอร์พูล" ได้เสร็จ
สามผสานในแผงกองกลางของเจ้าของบ้านทั้งยัง เดแคลุกลี้ลุกลน ไรซ์, มาร์ติน โอเดการ์ด แล้วก็ จอร์จินโญ่ เล่นกันได้อย่างเข้ากันสามารถปิดโอกาสไม่ให้ อเล็กสิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และก็ เคอร์ว่ากล่าวส โจนส์ ทำเกมได้ถนัด
ไรซ์ กับ โอเดการ์ด วิ่งพล่านไปดูเหมือนจะทุกพื้นที่ในดินแดนกึ่งกลาง โดย กองกลางกลุ่มชาติอังกฤษ สามารถเล่นเกมยอมรับได้ดียอด โน่นทำให้ กัปตันกลุ่มชาวประเทศนอร์เวย์ เล่นเกมรุกได้อย่างอิสระเสรี รวมทั้งได้โอกาสได้ประดิษฐ์เกมอย่างมาก
สวนกับ แม็ค อัลลิสเตอร์, โจนส์ แล้วก็ ไรอัน กราเฟนกางร์ก ที่ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย ที่สำคัญการเล่นเพรสซิ่งในดินแดนกึ่งกลางของ อาร์เซน่อล ทำให้พวกเขาบีบคั้นกลุ่มเยี่ยมจนกระทั่งเล่นไม่ออก แล้วก็จะต้องกลับไปอยู่บ้านไปด้วยความชอกช้ำระกำใจ
2. ฟาน ไดค์ พลาดมหันต์
หนึ่งในหัวข้อที่จะไม่เอ่ยถึงก็อาจมิได้ซึ่งก็คือการเล่นของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เนื่องจากว่านี่เป็นเกมที่จะต้องกล่าวว่า กัปตันชาวฮอลล์แลนด์ เล่นได้เสื่อมโทรมสุดๆที่สำคัญการตัดสินใจก็ไม่ดี แล้วก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มเสียทั้งยังสามประตู
ตอนต้นเกม ฟาน ไดค์ พบความเร็ว รวมทั้งการเล่นเพรสซิ่งของแนวรุกของ อาร์เซน่อล โจมตีอย่างมาก ส่วนจังหวะที่เสียประตูแรก ตัวรุกกลุ่มชาติเนเธอร์แลนด์ หลุดตำแหน่ง ทำให้ ไค ฮาแวร็ตซ์ ได้หลุดเข้าไปยิงแม้ว่าจะติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์ แม้กระนั้นท้ายที่สุด บูกาโย่ ซาก้า สามารถเก็บกินได้เสร็จ
ช่วงเวลาที่ประตูลำดับที่สอง ฟาน ไดค์ ควรโดนติเตียนอย่างมาก เพราะว่าแทนที่เขาจะตกลงใจจัดการบอลทิ้ง แต่ว่าดันเลือกปลดปล่อยให้ อลีสซง พากเพียรวิ่งออกมาเตะ แม้กระนั้นในที่สุดแปลงเป็นข้อผิดพลาด และก็ทำให้ กาเบรียล มาร์ติเตียนเนลลี่ ได้ยิงสบายๆ
สำหรับประตูตอกฝา***บศพ จะกล่าวว่า ฟาน ไดค์ ไม่ถูกทุกทางก็คงจะมิได้ แต่ว่าจังหวะการยื่นเท้าสกัดลูกยิงของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ดันไปไถลปลายหัวเกือกทำให้บอลเปลี่ยนแปลงด้าน แล้วก็ลอดขา "บิดาหมี" เข้าประตู
ในส่วนของคู่คิดอย่าง โกนาเต้ แม้ว่าจะพากเพียรช่วยกลุ่ม แต่ว่ามีหลายจังหวะที่โดนความเร็วของ มาร์ตำหนิเนลลี่ ทำร้าย ท้ายที่สุดโดน 2 ใบเหลืองแปลงเป็นใบแดง และก็ทำให้ "เดอะ เร้ดส์" ตกอยู่ในเหตุการณ์ตกต่ำเยอะขึ้นเรื่อยๆ
3. ขาดคีย์แมนสำคัญทำฟอร์มสะดุด
จะกล่าวว่าเป็นคำกล่าวอ้างก็ได้แม้กระนั้นเมื่อมองรูปเกมตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ จำต้องพูดว่าการขาด 2 คีย์แมนสำคัญซึ่งก็คือ คอนเนอร์ กางรดลี่ย์ แล้วก็ โดมินิค โซโบซไล ที่ไม่สามารถที่จะลงในสนามให้กับสังกัดเดิมได้ในเกมเยี่ยม อาร์เซน่อล
กรณีของ กางรดลี่ย์ เกิดเรื่องสุดวิสัยจริงๆเนื่องจากว่าพ่อจากไปแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ คล็อปป์ ตกลงใจเลือกที่จะดร็อปเขาเพื่อจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวในตอนที่ทุกข์ยากจากการสูญเสียบุคคลสำคัญในชีวิต
ส่วน โซโบซไล ดันมีปัญหาเจ็บ ทำให้หมดสิทธิ์ช่วยกลุ่ม ในช่วงเวลาที่ในรายของ ดาร์วิน นูนเญซ ก็พบการบาดเจ็บโจมตีเช่นเดียวกัน เพียงฟิตพอที่จะเดินทางมาเล่นในเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในฐานะผู้เล่นสำรอง
การส่ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงในสนามนับว่าเป็นเรื่องที่รู้เรื่องได้ เนื่องจาก "รองเทรนต์" จองสัมปทานในตำแหน่งนี้อยู่แล้ว แม้กระนั้นในรายของ ไรอัน กราเฟนกางร์ก นับว่า คล็อปป์ คงจะเลือกตัวไม่ถูก ด้วยเหตุว่าถ้าหากเขาใช้งาน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ คงจะทำให้ดินแดนกึ่งกลางของ "ลิเวอร์พูล" มีความจี๊ดจ๊าดมากยิ่งกว่านี้
4. คล็อปป์ วางหมากบกพร่อง
สำหรับหัวข้อการวางแท็กตำหนิคบกพร่องงานนี้ คล็อปป์ จำเป็นต้องก้มหัวสารภาพ เนื่องจากว่าแมตช์นี้ ผู้จัดการทีมชาวด๊อยท์ช เลือกนักฟุตบอล แล้วก็การจัดวางระบบการเล่นที่ค้อนข้างน่าผิดหวังพอเหมาะพอควร
ถ้ามองดูจากข้อเท็จจริงการที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟิตบริบูรณ์แล้ว คล็อปป์คงจะส่งเขากลับไปเล่นตัวบุกปีกซ้าย โดยโยก โกเมซ มายืนตัวบุกปีกขวา ส่วน "รองเทรนต์" ก็จับไปยืนกองกลางสุดกำลัง ข้างหลังทำผลงานได้อย่างเด่นในตำแหน่งนี้ รวมทั้งแฟนบอล "ลิเวอร์พูล" ก็ต้องการมองเห็นเขายืนดินแดนกึ่งกลางแบบถาวรซะครั้ง
จะมองเห็นได้ว่าในแมตช์นี้ฟูลแบ็กทั้งคู่ฝั่งไม่อาจจะทำอะไรได้เลยในเกมรุก ในช่วงเวลาที่เกมรับก็จะต้องพบกับงานหนักสำหรับการประมือกับความเร็วของ มาร์ติเตียนเนลลี่ รวมทั้ง ซาก้า ซึ่งทำร้ายทั้งคู่คนยากจนป่วนปั่นไปหมด
ช่วงเวลาที่แผงกองกลางการที่ คล็อปป์ เลือกใช้งาน กราเฟนกางร์ก โดยหวังจะใช้ความคล่องตัวของเขาทำร้ายดินแดนกึ่งกลาง อาร์เซน่อล แต่ว่าแปลงเป็นว่านักเตะทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งถ้าเกิดดูจากมุมแฟนบอลแน่ๆว่าถ้าหากใช้ เอลเลียตต์ คงจะทำให้กลุ่มเล่นได้มีมิติมากยิ่งกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นแบบดุเดือด กล้าวิ่งทะลุทลวง คงจะก่อให้เกิดปัญหาให้กับอาร์เซน่อล ได้มากกว่า กราเฟนกางร์ก
5. ลุ้นแชมป์เปิดกว้างเพิ่มขึ้น
ด้วยข้อจำกัดที่จะต้องชนะเพื่อทำให้ อาร์เซน่อล กลับมาสู่ทางการลุ้นแชมป์ ทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยแรงผลักดันสำหรับการเล่น รวมทั้งสามารถไล่บีบคั้น หงส์แดง จนกระทั่งไม่อาจจะเล่นเกมที่ตนเองถนัดได้เลย
ข้างหลังจบเกมด้วยการคว้า 3 คะแนน โน่นทำให้เวลานี้ "เดอะ กันเนอร์ส" กลับมาสู่ทางการลุ้นแชมป์เต็มด้วย โดยปัจจุบันนี้พวกเขาเก็บไปแล้ว 49 แต้ม ตามหลัง "ลิเวอร์พูล" หัวหน้าฝูงเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนแค่นั้น
นอกเหนือจากนั้นความแพ้พ่ายของ หงส์แดง ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ้มกริ่ม ด้วยเหตุว่ากองทัพ "เรือใบสีฟ้า" มีคิวบุกเยี่ยม เบรนท์ฟอร์ด ในเกมลีกวันจันทร์ที่ 5 ก.พ.นี้ ถ้าเกิดพวกเขาชนะก็จะเก็บเพิ่มเป็น 49 คะแนน แต่ว่าแข่งขันน้อยกว่า 1 นัดหมาย ซึ่งโน่นทำให้พวกเขาจะจับชะตาการลุ้นแชมป์เอาไว้ภายในมือโดยทันที
อย่างไรก็ดีความแพ้พ่ายของ หงส์แดง ในเกมนี้บางทีอาจจะเป็นจุดแปลงสำคัญที่ทำให้พวกเขาระเบิดฟอร์มโหดเ***้ยมอีกที ราวกับในขณะที่แพ้ สเปอร์ส รวมทั้งต่อจากนั้นก็ไม่แพ้คนไหนกันในลีก 15 แมตช์ต่อเนื่องกัน จนกระทั่งพุ่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝูงลีกอย่างที่มองเห็นในตอนนี้ !!!


สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa